เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

พันธกิจนางรูธ: เห็นคุณค่าผู้สูงอายุ ในวันที่ยากที่สุด

พันธกิจนางรูธ: จุดประกายหวังแก่ผู้สูงอายุ จากใจเมตตาสู่ศูนย์กลางการเปลี่ยนชีวิต เมื่อความสัมพันธ์เปิดประตูสู่ข่าวประเสริฐ

พันธกิจนางรูธ คือพันธกิจที่มุ่งเน้นการทำงานกับกลุ่มคนผู้สูงอายุ ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนที่ท้าทายที่สุดในการประกาศข่าวประเสริฐ เนื่องจากผู้สูงอายุมี ประสบการณ์ชีวิตที่ยาวนานที่สุด และมีความคิดเป็นของตนเองสูงมาก การทำพันธกิจกับคนกลุ่มนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย

จุดเริ่มต้นจากหัวใจแห่งความเมตตา

คุณสุพรรณี แสงสีงาม หรือพี่หน่อย ผู้อำนวยการพันธกิจนางรูธ เล่าถึงที่มาของศูนย์ว่า เกิดขึ้นเมื่อเธอไปเยี่ยมเด็กๆ และเห็นภาพคุณยายท่านหนึ่งนั่งอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครเข้าไปทักทาย ภาพนั้นทำให้เธอกลับมาอธิษฐานกับพระเจ้า เธอได้รับแรงบันดาลใจจาก "นางรูธ" ในพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นสตรีที่ดูแลหญิงม่ายและแม่สามี เธอจึงปรารถนาที่จะเป็นผู้สนใจดูแลหญิงม่าย คนสูงอายุ หรือคนที่ยากจนที่อยู่คนเดียว

อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้นพันธกิจเต็มไปด้วยความท้าทาย พี่หน่อยยอมรับว่าตนเอง ไม่ได้จบนักสังคมสงเคราะห์ ไม่ได้เป็นนักจิตวิทยา ไม่ได้จบพระคัมภีร์ และไม่ทราบว่าจะประกาศกับผู้สูงอายุอย่างไร แม้แต่ครอบครัวก็ไม่เห็นด้วยเนื่องจากเธอต้องทำงานโดยไม่มีเงินเดือน แต่ผู้นำได้ท้าทายให้เธอ "เริ่มเลย" เมื่อเธออธิษฐานขอเพื่อนร่วมงานหนึ่งคน พระเจ้าก็ส่งเพื่อนคนไทยที่ไม่ได้ติดต่อกันมา 3-4 ปี โทรมาเสนอเงินสนับสนุนก้อนแรก 1,000 บาทต่อเดือน และส่งเพื่อนร่วมงานที่มีหัวใจกับผู้สูงอายุมาด้วย สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอมั่นใจในสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียก

นอกจากนี้ การที่พระเจ้าสร้างพี่หน่อยให้มีรูปร่างที่ตัวเล็กก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่องานของพระเจ้า เธอสามารถเข้าไปในพื้นที่แคบๆ ได้ทุกที่ และการที่เธอตัวเล็กทำให้คนในชุมชนไม่รู้สึกกลัวหรือระแวงว่าเธอจะไปทำอันตรายผู้สูงอายุ ทำให้ประตูชุมชนเปิดกว้างสำหรับพันธกิจนี้



กิจกรรมและการเปลี่ยนแปลงชีวิต

ที่ศูนย์นางรูธ จะเปิดสำนักงานตั้งแต่ 8:00 น. โดยมีกาแฟ ขนม และน้ำต้อนรับคุณตาคุณยาย ในช่วง 8:00 น. ถึง 10:00 น. คุณตาคุณยายจะพูดคุยกัน แลกเปลี่ยนปัญหา และอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกัน ชั้นเรียนพระคัมภีร์จะเริ่มตอน 10:00 น. นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การเล่นเกม ออกกำลังกาย ร้องเพลงนมัสการ และการอธิษฐานเผื่อกัน คุณตาคุณยายหลายคนอยากมาที่ศูนย์ทุกวัน พวกเขามีความสุข ลืมความเครียด และร่างกายแข็งแรงขึ้น บางคนถึงกับบอกว่าอยากให้เปิดชั้นเรียนพระคัมภีร์ทุกวัน



การทำพันธกิจกับผู้สูงอายุที่มีความเชื่อมานานถึง 60-80 ปีนั้นยากต่อการ "กระเทาะใจ" ให้รู้จักข่าวประเสริฐ พี่หน่อยพบว่า ประตูแรกที่ผู้สูงอายุจะเปิดคือการเป็นเพื่อน การเริ่มต้นด้วยการสร้างความสัมพันธ์ ถามชื่อ ถามเรื่องราวชีวิต และรับฟังพวกเขามากๆ เมื่อมีความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว พวกเขาก็จะอยากรับฟังเรื่องความเชื่อของเราเช่นกัน



เรื่องเล่าจากชุมชน

คุณยายท่านหนึ่งที่มาร่วมกิจกรรมเล่าว่า เธอรู้จักศูนย์นี้จากการที่พี่หน่อยไปเยี่ยมที่ชุมชน เธอมาที่นี่ตั้งแต่อายุ 58 ปี จนตอนนี้ 67 ปีแล้ว คุณยายมาที่นี่เพื่อมาเจอเพื่อน มาเล่นเกม และร้องเพลงนมัสการ แม้บางครั้งจะเดินไม่ค่อยได้ แต่ก็ยังอยากมา เพราะอยู่บ้านแล้วเงียบเหงา

ชีวิตของคุณยายก่อนหน้านี้ลำบากมาก เธอไม่มีบ้านอยู่ ต้องอาศัยอยู่ในกระต๊อบนานถึง 13 ปี ก่อนจะย้ายมาอยู่บ้านมูลนิธิเมื่อปีเศษมานี้ ค่าเช่าบ้านก็ไม่มีปัญญาจ่าย คุณยายและคุณตา (สามี) ต้องหาเงินโดยการที่สามีออกไปขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ก่อนที่จะมาเจอศูนย์ฯ พวกเขาต้องซื้อข้าวสารทีละ 1 กิโลกรัม หรือครึ่งกิโลกรัม และ ซื้อไข่ 2 ใบ มาแบ่งออกเป็น 4 ส่วนเพื่อกินให้พออิ่ม

หลังมาที่ศูนย์ฯ ชีวิตก็เปลี่ยนไป คุณยายได้รับข้าวสาร 5 กิโลกรัม และชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ คุณยายเริ่มอ่านพระคัมภีร์สดุดีซึ่งโดนใจ และตัดสินใจรับบัพติศมาหลังจากการสอนพระคัมภีร์ 8 อาทิตย์ คุณยายนำคำสอนที่ได้รับไปบอกเล่าให้ลูกชายและหลานอีกสองคนฟัง และพวกเขาก็เชื่อตาม คุณยายมีความสุขมากจนถึงกับบอกว่า หากศูนย์ปิดไปจะเสียใจมากที่สุด
อนาคตของผู้สูงอายุและความสัตย์ซื่อทางการเงิน


พันธกิจนางรูธไม่ได้มองข้ามปัญหาทางกายภาพ หากคุณตาคุณยายอยู่ไม่ปลอดภัย ทางศูนย์ฯ ก็มีโครงการช่วยเหลือและ ซ่อมแซมบ้านหรือห้องน้ำ เช่น การสร้างทางเดินคอนกรีตแทนไม้ที่ต้องเปลี่ยนทุก 2-3 ปี และเป็นสาเหตุให้คุณยายล้ม และการซ่อมแซมพื้นห้องน้ำที่เอียงให้กับคุณตาคุณยาย

"ผู้สูงอายุมีอนาคต หากพวกเขาเชื่อพระเจ้าและได้รับคำสอนอย่างเข้าใจ พวกเขาสามารถส่งอิทธิพลความเชื่อนี้ไปยังลูกหลานของพวกเขาได้" พี่หน่อยกล่าว


แม้ว่าทางศูนย์ฯ จะประสบปัญหาทางการเงิน และไม่ทราบว่าจะสามารถจ่ายค่าเช่าและอยู่ได้อีกนานเท่าใด แต่พันธกิจนี้ก็ยังคงรักษาความสัตย์ซื่อทางการเงินอย่างเคร่งครัด เงินบริจาคที่ถูกระบุเพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุ จะถูกนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุเท่านั้น จะไม่มีการนำเงินส่วนนี้ไปใช้เป็นค่าบริหาร ค่าเช่า หรือเงินเดือนเจ้าหน้าที่ นี่คือเหตุผลที่ถึงแม้ศูนย์ฯ จะมีปัญหาเรื่องค่าเช่า แต่พวกเขาก็ยังมีเงินนำมาช่วยซ่อมห้องน้ำให้คุณตาคุณยายได้ พี่หน่อยและเจ้าหน้าที่ต้องหาเงินมาสนับสนุนตนเองเพื่อมาช่วยคนในชุมชน


ข้อคิดสำหรับผู้รับใช้

พี่หน่อยให้กำลังใจผู้ที่รู้สึกเหมือนกับเธอที่เริ่มต้นโดยไม่มีความรู้ ไม่มีประสบการณ์ และขาดการสนับสนุน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพระเจ้าต้องการคนเชื่อฟัง เธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าศูนย์นางรูธจะมาถึงจุดที่ผู้สูงอายุอยากมาพบเพื่อน อยากมาเรียนพระคัมภีร์ตั้งแต่ 8:00 น. ทั้งที่ชั้นเรียนเริ่ม 10:00 น. ความสำเร็จของพันธกิจนี้เกิดจาก ความสัตย์ซื่อของพระเจ้า เมื่อเราเพียงแค่เชื่อฟังแม้เราจะไม่เห็นภาพอะไรอยู่ข้างหน้าเลย


เยี่ยมชมพันธกิจนางรูธ พันธกิจที่มุ่งเน้นการทำงานกับกลุ่มคนผู้สูงอายุ ได้ที่เว็บไซต์ ศูนย์นางรูธ  และชมรายการเต็มได้ใน The Survivor ภารกิจ ชีวิต ความรอด ตอน 'พันธกิจนางรูธ' เห็นคุณค่าผู้สูงอายุ ได้ทาง CGN Thai





________________________________________


ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook