เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้
"ฉันให้อภัยเขา เพราะพระคริสต์ทรงทำ" คนนับหมื่นร่วมไว้อาลัย ชาร์ลี เคิร์ก ภรรยาประกาศ "ให้อภัย" มือสังหาร
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ผู้ไว้อาลัยหลายหมื่นคน ได้รวมตัวกันที่สนามสเตทฟาร์ม สเตเดียม (State Farm Stadium) ในเมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสมาชิกในคณะบริหารของเขา เพื่อยกย่องชีวิตของ ชาร์ลี เคิร์ก นักเคลื่อนไหวและผู้ประกาศข่าวประเสริฐชื่อดัง
เอริกา เคิร์ก ภรรยาม่ายของเคิร์ก ได้กล่าวสุนทรพจน์ไว้อาลัยด้วยอารมณ์สะเทือนใจ และได้รับเสียงปรบมือยาวนานเมื่อเธอประกาศว่าอภัยแก่มือสังหาร
เอริกา เคิร์ก กล่าวว่า "หนุ่มคนนั้น ฉันให้อภัยเขา ฉันให้อภัยเขาเพราะนั่นคือสิ่งที่พระคริสต์ทรงทำ และนั่นคือสิ่งที่ชาร์ลีจะทำ" พร้อมเสริมว่า "คำตอบของความเกลียดชังไม่ใช่ความเกลียดชัง คำตอบที่เราทราบจากพระกิตติคุณคือความรัก"
เอริกา เคิร์ก ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในแอริโซนากับเคิร์กและลูกเล็กๆ สองคน เล่าถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อไปถึงโรงพยาบาลในยูทาห์เพื่อมองร่างของสามี อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวว่า เธอยังคงเห็นผู้ชายที่รัก แม้ในความตาย และสังเกตเห็น "รอยยิ้มจางที่สุด" บนริมฝีปากของเขา ซึ่งเปิดเผยถึงความเมตตาอันยิ่งใหญ่จากพระเจ้าที่ทำให้เขาสิ้นชีวิตโดยไม่เจ็บปวด
งานพิธีรำลึกนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมถึงราว 200,000 คน ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในพิธีรำลึกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ ผู้สนับสนุนต่างชูแผ่นป้ายและถือธงชาติอเมริกัน วิทยากรหลายท่านได้เน้นย้ำถึงความเชื่อของเคิร์ก
สำนักข่าว CBN News ได้สัมภาษณ์ ลูคัส ไมล์ส ศิษยาภิบาลและผู้อำนวยการ TPUSA Faith ที่การเสียชีวิตของ ชาร์ลี เคิร์ก อาจจุดประกายการฟื้นฟูครั้งใหญ่ทั่วประเทศ ไมล์สได้กล่าววว่า วิธีนี้เป็นวิธีการที่พระเจ้ากำลังกระตุ้นหัวใจและจิตใจของคนหนุ่มสาวทั่วอเมริกา และกล่าวถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์นี้กำลังเขย่าประเทศ และไม่มีคู่มือในการผ่านพ้นเรื่องเช่นนี้ไปได้
"เคิร์กกำลังกำหนดอนาคตของชาติอย่างแท้จริงด้วยตัวคนเดียว แม้กระทั่งในตอนนี้ เพราะผู้คนจำนวนมากกำลังตื่นขึ้น"
ไมล์ส กล่าวอีกว่า อิทธิพลของเคิร์กหลังจากที่เสียชีวิตอาจยิ่งใหญ่กว่าผลงานที่เขาได้สร้างไว้ในช่วงชีวิตที่โดดเด่นของเขาเสียอีก เขากล่าวว่า "มากเท่าที่เขาทำในชีวิต เขากำลังทำอะไรอีกมากมายแม้กระทั่งในการเสียชีวิตของเขา ผมคิดว่ามีการฟื้นฟูครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว"
"ทุกสิ่งที่เขาทำนั้นถูกกรองผ่านเลนส์ของพระกิตติคุณและผ่านมุมมองของพระคัมภีร์ไบเบิล และเคิร์ก จะไม่ถูกลืมในเร็ววัน ในพระคริสต์ เขายังมีชีวิตอยู่ และเราจะได้พบเขาอีกครั้ง" เขากล่าวทิ้งท้าย
ลูคัส ไมล์ส ศิษยาภิบาลและผู้อำนวยการ TPUSA Faith (CBN News)
ขณะที่ในช่วงสุดสัปดาห์กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีรายงานว่า คริสตจักร V1 Church ในลองไอส์แลนด์ นิวยอร์ก มีผู้รับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดถึง 533 คน เป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งคริสตจักร โดยมีผู้คนทุกเพศทุกวัย และทุกเชื้อชาติ ซึ่งในลองไอส์แลนด์ นับว่าเป็นพื้นที่ที่ชาวโปรเตสแตนต์ถือเป็นชนกลุ่มน้อย
ไมค์ ซินญอเรลลี ศิษยาภิบาลคริสตจักร V1 Church กล่าวว่า รู้สึกตื้นตันใจและแทบจะร้องไห้ ซึ่งเขาได้ร้องไห้มาสองสามวันแล้วเมื่อนึกถึงว่า พระเจ้าจะทรงนำโศกนาฏกรรมระดับชาติเช่นนี้มาพลิกและใช้มันเพื่อการช่วยให้รอดครั้งใหญ่ได้อย่างไร
"การจากไปของชาร์ลี เคิร์ก เปรียบเสมือนการโยนไม้ขีดลงบนน้ำมันเบนซิน น้ำมันเบนซินคือเงื่อนไขที่คนใน Generation Z ตกอยู่แล้ว และเหตุการณ์นี้คือประกายไฟสำหรับการฟื้นฟูครั้งใหญ่"