เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

เบื้องหลังเพลง "Your Idol" ความเชื่อและแรงบันดาลใจของ EJAE สู่ภาพยนตร์ 'KPop Demon Hunters'

เบื้องหลังเสียงเพลง "Your Idol" ความเชื่อของ EJAE กับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ ‘KPop Demon Hunters’


ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง KPop Demon Hunters บน Netflix กลายเป็นกระแสไปทั่วโลก นับตั้งแต่เข้าฉายเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยสามารถขึ้นอันดับ 1 ใน 12 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ อิสราเอล ลัตเวีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ สวีเดน และประเทศไทย โดยติดอันดับ Top 10 ในอีก 93 ประเทศทั่วโลก


นอกจากเนื้อเรื่องที่สนุกและเข้มข้นแล้ว เพลงประกอบภาพยนตร์ยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม หลายเพลงติดอันดับ iTunes Top Album Charts, K-pop Charts และ Apple Music’s Pop and K-Pop Album Charts รวมถึงขึ้นอันดับ 2 บน Billboard 200 Chart


เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้ มีศิลปิน นักแต่งเพลง และโปรดิวเซอร์เสียงที่มีบทบาทสำคัญอย่าง EJAE หรือ คิม อึนแจ (Kim Eun-jae) ผู้เป็นคริสเตียนโปรแตสแตนท์ ซึ่งอยู่เบื้องหลังเพลงตั้งแต่ปลายปี 2020 ถึงต้นปี 2021 เธอไม่เพียงแค่แต่งเพลง แต่ยังเป็นโปรดิวเซอร์เสียงร้อง และเป็นผู้ให้เสียงร้องสำหรับตัวละครหลักอย่าง "รูมิ" อีกด้วย


EJAE เป็นผู้ร้องเดโมเพลงทั้งหมดในเรื่อง รวมถึงเพลง "Your Idol" ที่ร้องโดยวงบอยแบนด์ปีศาจ The Saja Boys โดยเธอใช้เสียงของตนเองที่เป็นผู้หญิง แล้วปรับระดับเสียงให้เหมือนเสียงผู้ชาย ผลงานนี้ไม่ใช่แค่การแสดงความสามารถด้านดนตรี แต่สะท้อนความเชื่อและประสบการณ์ส่วนตัวของเธอในฐานะคริสเตียนอย่างลึกซึ้ง


เอียน ไอเซนดราธ โปรดิวเซอร์เพลงฝ่ายบริหาร และ EJAE เข้าร่วมรอบฉายพิเศษ KPop Demon Hunters ที่โรงภาพยนตร์ Netflix Tudum เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 ในลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย (Instagram : ejae_k)

จาก "Your Idol" สู่การตั้งคำถามต่อการยกย่องรูปเคารพ


ภาพยนตร์เล่าเรื่องของกลุ่มศิลปิน K-pop ที่มีตัวตนลับเป็นนักล่าปีศาจ คอยปกป้องแฟนคลับจากภัยเหนือธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ และต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัวที่สุด นั่นคือวงบอยแบนด์ปีศาจที่แฝงตัวมาในคราบของศิลปิน ซึ่งใช้เสน่ห์หลอกล่อแฟนเพลงให้หลงใหล


เพลง "Your Idol" ถ่ายทอดเรื่องราวของการลุ่มหลงในรูปเคารพ ผ่านมุมมองของ The Saja Boys ที่ต้องการให้แฟนๆ หลงใหลพวกเขาจนสามารถควบคุมได้ EJAE เล่าว่า เธอได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเชื่อในพระเจ้า เพราะตั้งแต่เด็กเธอเติบโตมาในครอบครัวคริสเตียน และเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า การนมัสการสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า ถือเป็นบาป


"มันฟังดูเหมือนรูปเคารพ ซึ่งเป็นสิ่งที่คำว่า 'ไอดอล' หมายถึงจริงๆ" EJAE กล่าว "ฉันถูกเลี้ยงดูมาในความเชื่อคริสเตียน และฉันจำได้ว่าการนมัสการสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นบาป ซึ่งประโยคอย่าง 'ฉันจะเป็นรูปเคารพของคุณ' นั้น มันฟังดูค่อนข้างน่าขนลุก"


คำพูดเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ความเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า โดยเฉพาะเรื่องการไม่ยอมให้มีรูปเคารพอื่น นอกจากพระองค์เดียว (อพยพ 20:3-5) ได้กลายเป็นกรอบคิดที่ทำให้เธอสร้างบทเพลงที่ตีแผ่วัฒนธรรมการลุ่มหลงในวงการบันเทิงได้อย่างเฉียบคม


Your Idol เป็นเพลงที่งดงามและน่าสะเทือนใจ ที่ The Saja Boys ใช้ควบคุมแฟนเพลง (Netflix)

เบื้องหลังการทำเพลง: เมื่อความเชื่อหลอมรวมกับกระบวนการสร้างสรรค์

KPop Demon Hunters ถือเป็นโปรเจกต์ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องแรกของ EJAE โดยเธอได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับนักแต่งเพลงแดเนียล โรฮาส และเอียน ไอเซนดราธ โปรดิวเซอร์เพลงฝ่ายบริหาร ในการพัฒนาเพลงให้เข้ากับเรื่องราวของภาพยนตร์


ทีมงานได้รับคำบรรยายฉากและข้อมูลอ้างอิงจากผู้กำกับ เพื่อช่วยให้เข้าใจบรรยากาศที่ต้องการถ่ายทอดมากที่สุด ค่าย THEBLACKLABEL เป็นผู้จัดทำแทร็กดนตรีพื้นฐาน แล้ว EJAE และมาร์ค ซอนเนนบลิดท์ จึงร่วมกันแต่งเนื้อร้องและทำนองให้ลงตัวกับอารมณ์ของฉากต่างๆ


หนึ่งในความท้าทายคือการทดลองเสียง “ปีศาจ” และการผสมผสานดนตรีพื้นบ้านเกาหลีเข้ากับเสียงสมัยใหม่ของ K-pop เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ขณะเดียวกันเพลงหลายเพลงก็ต้องปรับเปลี่ยนหลายครั้งตามการเปลี่ยนแปลงของฉาก โดยมีเพียงเพลงเดียวที่ไม่ถูกแก้ไขเลย คือเพลง “How It's Done” ส่วนหนึ่งของบทเพลงที่ใช้จริงในภาพยนตร์นั้น EJAE บันทึกเดโมไว้มากถึง 57 เวอร์ชัน เพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉากนั้นๆ


EJAE ให้สัมภาษณ์กับ BuzzFeed (Instagram : ejae_k)

รูมิ: การยอมรับตัวตนและพลังแห่งความเชื่อ


นอกจากการแต่งเพลง EJAE ยังรู้สึกผูกพันกับตัวละคร “รูมิ” อย่างลึกซึ้ง รูมิคือหนึ่งในสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป Huntrix ที่มีภารกิจลับเป็นนักล่าปีศาจ โดยรูมิเองมีสายเลือดปีศาจอยู่ครึ่งหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอต้องซ่อนตัวตนที่แท้จริงจากสายตาคนอื่น


EJAE เล่าว่า ฉากที่รูมิถูกสั่งให้ปิดบังด้านที่เป็นปีศาจนั้น สะท้อนถึงประสบการณ์ของเธอในอดีตตอนเป็นเด็กฝึกในวงการ K-pop ที่ต้องเผชิญกับความกดดันอย่างหนักเพื่อให้ดู “สมบูรณ์แบบ” และต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เข้ากับความคาดหวังของอุตสาหกรรมบันเทิง


"บางครั้งการที่เราอ่อนแอ หรือมีข้อผิดพลาด ก็ไม่เป็นไร นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์" เธอกล่าว


ในฐานะลูกครึ่งเกาหลี-อเมริกัน EJAE ยังรู้สึกว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางสองวัฒนธรรม ซึ่งทำให้เธอเข้าใจเนื้อหาของภาพยนตร์ที่พูดถึงการยอมรับในตัวตนของแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง การเติบโตมาท่ามกลางสองภาษาและสองวัฒนธรรมไม่ใช่ความขัดแย้งสำหรับเธอ แต่กลับเป็น "พร" ที่ทำให้เธอสามารถสื่อสารความรู้สึกในบทเพลงออกมาได้ทั้งสองภาษาอย่างเป็นธรรมชาติ


เธอมองว่า การร้องเพลงก็เปรียบเหมือนการแสดง และการที่เธอได้ร่วมแต่งเพลงเหล่านั้นเองตั้งแต่ต้น ทำให้สามารถเข้าถึงอารมณ์และถ่ายทอดออกมาได้อย่างจริงใจ โดยเฉพาะในเพลงที่มีความลึกซึ้งทางอารมณ์ เช่น "This is What It Sounds Like"


สมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป Huntrix (Netflix)

บทเพลงที่เปี่ยมด้วยความเชื่อ


การมีส่วนร่วมของ EJAE ใน KPop Demon Hunters ไม่ได้เป็นแค่การแสดงฝีมือทางดนตรี แต่เป็นการสะท้อนตัวตน ความเชื่อ และประสบการณ์ชีวิตที่หล่อหลอมเธอขึ้นมา ทั้งยังทำให้ผู้ชมหลายคนสัมผัสถึงความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าความบันเทิง


ทุกเสียงของเธอบนโซเชียลมีเดียที่แพร่กระจายอยู่ตอนนี้ คือคำตอบของพระเจ้าในแบบที่เธอไม่คาดคิด และเธอยังบอกว่า การได้เป็น "ตัวละครแอนิเมชันที่ร้องเพลงอยู่เบื้องหลัง" คือภาพฝันเล็กๆ ที่พระเจ้าทรงทำให้เป็นจริงอย่างพิเศษและลงตัวที่สุด


ภาพ: Instagram : ejae_k, Netflix

ที่มา: ForbesThe Christian Post



________________________________________


ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook