เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

หนุ่ม Gen Z ในสหรัฐฯ แห่เข้าคริสตจักรมากขึ้น

การเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณครั้งสำคัญ: ชายหนุ่ม Gen Z หลั่งไหลเข้าโบสถ์จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งเกิดขึ้นในแวดวงคริสเตียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ Generation Z (ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกาในยุคปัจจุบัน ชายหนุ่มมีความเชื่อทางศาสนามากกว่าเพื่อนร่วมวัยที่เป็นผู้หญิง พวกเขาเข้าร่วมพิธีนมัสการบ่อยขึ้น และมีแนวโน้มที่จะระบุว่าตนเองเป็นผู้มีความเชื่อมากกว่า


ผู้รับใช้และศิษยาภิบาลจำนวนมากได้สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ เช่น เกร็ก ลอรี ศิษยาภิบาลอาวุโส จาก Harvest Church ในแคลิฟอร์เนีย เล่าว่าเห็นผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มสาว ตัดสินใจมอบชีวิตแด่พระคริสต์ ในวันอีสเตอร์ปี 2025 นี่เป็นสิ่งที่เขาจำไม่ได้ว่าเคยเกิดขึ้นในวันอีสเตอร์ปีอื่นๆ เขาบอกว่าพวกเขาเห็นถึง 500 คนทำการรับเชื่อต่อสาธารณะ นอกจากนี้ ครูคนหนึ่งได้เล่าให้เขาฟังว่าชมรมพระคัมภีร์ในโรงเรียนรัฐบาลของเธอมีนักเรียน 28 คนจาก 30 คนเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น เนื่องจากปกติแล้วผู้หญิงมักจะเป็นผู้นำในเรื่องจิตวิญญาณ ในขณะที่ผู้ชายอาจเฉื่อยชาหรือไม่สนใจ


คริสตจักรหลายแห่งทั่วสหรัฐฯ เริ่มเห็นชายหนุ่ม Gen Z เข้าร่วมมากขึ้น Grace Church ซึ่งเป็นคริสตจักร Southern Baptist ในเมืองวาโก รัฐเท็กซัส ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่นี่ ชายหนุ่มมีจำนวนมากกว่าหญิงสาวในรอบนมัสการมาหลายปีแล้ว เมื่อโบสถ์แห่งนี้เปิดสาขาเล็กๆ ในเมืองโรบินสัน เมืองใกล้เคียงเมื่อปีที่แล้ว คนหนุ่มสาว 12 ใน 16 คนที่เข้าร่วมประจำก็เป็นผู้ชาย ศิษยาภิบาลฟิลล์ บาร์นส์จาก Hope Church (คริสตจักรสาขาของ Grace Church) กล่าวว่า พวกเขาพูดคุยกันมาตั้งแต่ต้นว่าพระเจ้ากำลังทำอะไร และเหตุใดพระองค์จึงส่งชายหนุ่มมามากมายถึงเพียงนี้


“เราพูดคุยกันเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว” ศิษยาภิบาลฟิลล์ บาร์นส์ (ซ้าย) กล่าว “พระเจ้ากำลังทำอะไร ทำไมพระองค์จึงส่งชายหนุ่มเหล่านี้มาให้เรา” (เมอริดิธ โคฮุต สำหรับ The New York Times)

ผลสำรวจใหม่จาก Barna Research Group ก็สนับสนุนสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ในกลุ่มชายหนุ่ม และยังแสดงให้เห็นถึง จำนวนชาวอเมริกันที่บอกว่าตนเองได้มอบชีวิตแด่พระคริสต์เพิ่มขึ้นเกือบ 30 ล้านคน เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว 


เดวิด คินนาแมน ซีอีโอของ Barna Research Group กล่าวว่า นี่แสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นต่อพระคริสต์และความเปิดกว้างทางจิตวิญญาณกำลัง "ปะทุ" ไปสู่สถานที่ที่ไม่คาดคิดในสังคมปัจจุบัน การสำรวจอีกฉบับโดย Survey Center on American Life พบว่า ในกลุ่มคริสเตียน Gen Z  ชายหนุ่มกำลังคงอยู่ในคริสตจักร ในขณะที่หญิงสาวกำลังจากไปอย่างรวดเร็ว โดยเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของหญิงสาว Gen Z ระบุว่าตนเองไม่มีความเกี่ยวข้องทางศาสนา คิดเป็นร้อยละ 34 ของชายหนุ่ม ในขณะที่กลุ่มอายุอื่นๆ ทั้งหมด เพศชายมีแนวโน้มที่จะไม่มีความเกี่ยวข้องทางศาสนามากกว่า ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงนับถือศาสนามากกว่าผู้ชาย การวิเคราะห์ของ ดร.ซาราห์ สนิทช์เกอร์ ใน The Times พบว่า ชายหนุ่มมีคะแนนสูงกว่าในด้านความยึดมั่นต่อความเชื่อพื้นฐานของคริสเตียน เช่น การเข้าร่วมรอบนมัสการ และความถี่ในการอ่านพระคัมภีร์


มีหลายปัจจัยที่อาจอธิบายปรากฏการณ์นี้ ในมุมมองของ เกร็ก ลอรี เขาคิดว่าเหตุผลหนึ่งคือ ผู้ชายรู้สึกเหนื่อยล้าจากการถูก "โจมตี" ในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะการถูกบอกว่าการเป็นผู้ชายแท้เป็นสิ่งไม่ดี และเกิดปฏิกิริยาต่อต้านสิ่งนี้ขึ้น นอกจากนี้ เขายังอ้างถึงความสำเร็จของภาพยนตร์คริสเตียนล่าสุด เช่น "The Chosen" และ "The House of David" ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าผู้คนกำลังมองหาคำตอบทางจิตวิญญาณและความจริง


ในอีกมุมมองหนึ่ง บรากเคน อาร์นฮาร์ท ศิษยาภิบาลจาก Hope Church กล่าวว่า ชายหนุ่มที่มาคริสตจักรกำลัง มองหาความเป็นผู้นำ ความชัดเจน และความหมาย เขากล่าวเสริมว่า "มีผู้ชายที่หิวโหยจริงๆ" ชายหนุ่มเหล่านี้ยัง ให้ความสำคัญกับชีวิตครอบครัวแบบดั้งเดิมสูงกว่า โดยชายหนุ่มที่ไม่มีบุตรมีแนวโน้มที่จะบอกว่าพวกเขาต้องการมีลูกในอนาคตมากกว่าหญิงสาวถึง 12 เปอร์เซ็นต์ 


คิทรอน เฟอริเอร์ นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเบย์เลอร์ กล่าวว่า เขารู้สึกว่าการติดตามพระเยซูเป็นเรื่องยาก ต้องปฏิเสธตนเองและความอยาก และเขาชื่นชมคริสตจักรที่ผู้นำพูดอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความเข้มข้นของการเสียสละตนเองที่เขาเห็นว่าเป็นข้อกำหนดสำหรับความเชื่อคริสเตียน เฟอริเอร์ กล่าวว่า ชายหนุ่มถูกดึงดูดไปยัง "ความจริงที่ยากลำบาก" บางครั้งเขาอยากได้ยินข้อความที่มี "พระพิโรธของพระเจ้า" อยู่บ้าง 


เดเร็ค ริชมาวี กล่าวว่า สำหรับชายหนุ่มบางคน การเป็นคริสเตียนถูกมองว่าเป็น "เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันที่เชื่อในตัวพวกเขา" โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัย คริสตจักรกำลังบอกพวกเขาว่า "คุณถูกสร้างมาให้มีชีวิตที่มีความหมาย" นอกจากนี้ ชายหนุ่มที่คริสตจักรยังพบมิตรภาพที่ดี และรู้สึกว่ามีคน "ที่ดีอย่างแท้จริงที่คอยช่วยเหลือเสมอ"


ผู้ที่เข้าร่วมรอบนมัสการที่ Grace Church ในเมืองเวโก รัฐเท็กซัส เมื่อเดือนกันยายน (เมอริดิธ โคฮุต สำหรับ The New York Times)

ในทางกลับกัน หญิงสาว Gen Z กำลังออกจากคริสตจักรไปอย่างรวดเร็ว โดยพวกเธอเติบโตมาในช่วงที่มีการเคลื่อนไหว #MeToo ซึ่งเป็นประเด็นการสนทนาระดับชาติเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ และการละเมิดด้านอื่นๆ ที่อิงกับเพศ ซึ่งนำไปสู่การเปิดเผยการละเมิดในคริสตจักรภายใต้แฮชแท็ก #ChurchToo


จากการสำรวจ ประมาณสองในสามของหญิงสาวอายุ 18 ถึง 29 ปี พบว่าคริสตจักรและชุมชนทางศาสนาส่วนใหญ่ ไม่ได้ปฏิบัติต่อชายและหญิงอย่างเท่าเทียมกัน โร.เบธ อลิสัน บาร์ นักประวัติศาสตร์ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงไปสู่คติความเติมเต็ม (แนวคิดที่เชื่อว่าชายและหญิงมีบทบาทที่แตกต่างกันในชีวิตสมรสและความเป็นผู้นำในคริสตจักร) ได้ลดการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในคริสตจักรลงอย่างมาก และคนรุ่นนี้ตระหนักถึงการขาดผู้นำหญิงมากขึ้น หญิงสาวบางคนรู้สึกไม่สบายใจในคริสตจักรที่พวกเธอเติบโตมา แม้ว่าพวกเธออาจยังคงมีจิตวิญญาณและยึดมั่นในพระเจ้า แต่พวกเธอกำลังออกจากแนวปฏิบัติทางศาสนาแบบดั้งเดิม


การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนทางเพศในคริสตจักรนี้ มีศักยภาพที่จะปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของศาสนา ชีวิตครอบครัว และการเมือง รัสเซล มัวร์ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะทราบว่าแนวโน้มใหม่นี้บ่งชี้ถึงการจัดเรียงใหม่ในระยะยาวหรือไม่ เขาประหลาดใจกับความแปลกประหลาดในประวัติศาสตร์คริสเตียนนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่องานพันธกิจและการเป็นอาสาสมัครในอดีต


ในขณะที่แนวโน้มนี้กำลังเกิดขึ้น เกร็ก ลอรี เชื่อว่าสิ่งที่คริสตจักรต้องมุ่งเน้นในตอนนี้คือพระมหาบัญชา ซึ่งคือการออกไปทั่วโลก ประกาศพระกิตติคุณ และสร้างสาวกจากประชาชาติทั้งปวง

ที่มา: The New York Times , CBN News



________________________________________


ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook