เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

ประชุมอนุศาสกเรือนจำนานาชาติ IPCA8 "ความหวังที่มีชีวิต"

40 ปี IPCA จัดประชุมใหญ่ระดับโลกที่กรุงเทพฯ ภายใต้หัวข้อ "ความหวังที่มีชีวิต" ดึงผู้แทน 33 ประเทศร่วมพันธกิจเรือนจำ


สมาคมอนุศาสกเรือนจำนานาชาติ (International Prison Chaplains Association - IPCA หรือ อิพก้า) ได้จัดการประชุมใหญ่ระดับโลกครั้งที่ 8 ขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 40 ปีแห่งการก่อตั้ง โดยจัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลักคือ "ความหวังที่มีชีวิต" (A Living Hope)


การประชุมครั้งนี้จัดขึ้น ณ อาคารสภาคริสตจักรในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 2-7 ตุลาคม 2025 มีผู้แทนอนุศาสนาจารย์และผู้ทำงานในเรือนจำเข้าร่วมจำนวน 130 คน จาก 33 ประเทศ แม้ว่าการประชุม Worldwide Conference ของ IPCA ตามธรรมเนียมจะจัดขึ้นทุก 5 ปี แต่ครั้งนี้ถูกเลื่อนมาจากปี 2020 เนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 การจัดงานครั้งนี้จึงเป็นการรวมผู้คนจากทั่วโลกอีกครั้งเพื่อแสดงให้เห็นถึงวิธีนำความหวังไปสู่เรือนจำ


ความหวังที่มีชีวิต: หัวใจของพันธกิจ


แนวคิด "ความหวังที่มีชีวิต" ถูกเลือกมาเป็นแนวคิดหลัก เนื่องจากโลกและสังคมปัจจุบันเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรือนจำ ความหวังมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากปราศจากความหวังแล้ว ผู้ต้องขังจะก้าวเดินต่อไปได้ยาก ผู้เข้าร่วมประชุมจากนิกายต่างๆ ทั้งโปรเตสแตนต์ คาทอลิก และออร์โธดอกซ์ ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตนในการเป็นผู้รับใช้พระเจ้าในเรือนจำ


ในพิธีเปิดการประชุม มีบุคคลสำคัญกล่าวสุนทรพจน์ อาทิ ศจ.ดร.บุญรัตน์ บัวเย็น ประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย, นายแพทริก เบอร์น เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย, ดร.พิเศษ สอาดเย็น ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย, และ อ.เดวิด บิวอิก ผู้อำนวยการ IPCA


เผยแพร่ความหวังในทุกทวีปและประเทศไทย


อ.เดวิด บิวอิก ผู้อำนวยการ IPCA ซึ่งกล่าวว่านี่เป็นการมาเยือนประเทศไทยครั้งที่ห้าของเขา ได้ชี้แจงถึงการตัดสินใจจัดประชุมในครั้งนี้ โดยเน้นย้ำถึงความตั้งใจที่จะสนับสนุนพันธกิจในภูมิภาคนี้:


"การตัดสินใจจัดการประชุมในเอเชียและที่ประเทศไทยโดยเฉพาะนั้น เป็นไปตามความต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่า IPCA ไม่ได้เป็นเพียงองค์กรตะวันตก ทั้งยังเป็นการส่งเสริมและให้กำลังใจพันธกิจอนุศาสนาจารย์ในเอเชียและไทยโดยเฉพาะ และเพื่อเรียนรู้จากสิ่งดีงามที่กำลังเกิดขึ้นแล้วในประเทศนี้เกี่ยวกับพันธกิจเรือนจำ"


ขณะที่ ศจ.ดร.ศิริรัตน์ ปุสุรินทร์คำ ประธานท้องถิ่นในการจัดงานนี้ ได้เน้นย้ำถึงแก่นของพันธกิจของอนุศาสกในเรือนจำ ซึ่งสะท้อนถึงพระเมตตาของพระเจ้า


"เรามาร่วมกันทบทวนพันธกิจอันทรงเกียรติ คือการเป็น ผู้รับใช้พระเจ้าในเรือนจำ ซึ่งเป็นงานที่สะท้อนถึงหัวใจของพระคริสต์ที่เสด็จมาหาคนที่ถูกทอดทิ้ง คนที่ถูกสังคมผลักไส และคนที่สิ้นหวัง"


กิจกรรมเต็มอิ่มทั้งแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสัมผัสวัฒนธรรม


ศจ.ดร.ศิริรัตน์ ได้กล่าวถึงกิจกรรมที่ผู้แทนจะได้สัมผัสวัฒนธรรมไทยและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการสัมมนาและ Workshop ผู้แทนจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนงานด้านการทำงานในเรือนจำ และมีวิทยากรทั้งจากผู้ทำงานในเรือนจำทั่วโลกมาเป็น resource person โดยในวันเสาร์ (วันที่ 4 ต.ค.) ช่วงเย็น ผู้แทนจะได้ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา และเข้าถึงวัฒนธรรมไทยผ่านอาหาร


นอกจากนี้ ในวันอาทิตย์ ผู้แทนจะไปเยี่ยมและร่วมรอบนมัสการในคริสตจักรท้องถิ่นถึง 12 แห่ง และตามธรรมเนียมของการจัด World Conference ในวันสุดท้าย (วันที่ 7 ต.ค.) ผู้แทนจะเดินทางไปเยี่ยมเรือนจำ ซึ่งในครั้งนี้คือ เรือนจำพิเศษธนบุรี


พันธกิจหลักของ IPCA คือการนำความรัก ความหวัง และความรอด เข้าไปสู่สถานที่ที่โลกอาจมองว่าเป็นที่มืดมนที่สุด โดยพวกเขาถูกเรียกว่าเป็น "ผู้ประกาศความหวัง" ในที่ที่สิ้นหวัง และเป็น "ผู้ประกาศอิสรภาพ" แม้ในกำแพงสูงใหญ่ IPCA มีการทำงานร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (UN) โดยได้รับสถานะ Special Consultative Status ตั้งแต่ปี 2014 ยืนยันคุณค่าของพันธกิจในระดับโลก




________________________________________

ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook