เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้
วัยรุ่นกว่า 2,000 คนในสหราชอาณาจักรเข้าร่วมงานอธิษฐานข้ามคืน สัมผัส “ความยำเกรงอันบริสุทธิ์”
กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร มีสัญญาณการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z หลั่งไหลเข้าสู่คริสตจักรเพื่อแสวงหาการเยียวยา เสรีภาพ และการหลุดพ้นจากสิ่งที่พันธนาการหัวใจ
วัยรุ่นกว่า 2,000 คนรวมตัวกันในงานอธิษฐานและนมัสการตลอดคืน ณ คริสตจักร Saint Church สาขา Hackney ในอีสต์ลอนดอน เมื่อศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น งานนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง Saint Church, King’s Cross Church และ Imprint Church จัดขึ้นตั้งแต่เวลา 19:00 น. จนถึง 07:00 น. ของวันเสาร์
งานดังกล่าวได้รับการขนานนามว่าเป็น “การเทของพระวิญญาณอันทรงฤทธิ์” ที่เต็มไปด้วยการกลับใจ รับความรอด การนมัสการที่เกิดขึ้นเอง และช่วงเวลาแห่งการสารภาพอย่างลึกซึ้งในบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า
อ.อัล กอร์ดอน ศิษยาภิบาลจากคริสตจักร Saint Church ซึ่งอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวอธิษฐานทุกสองเดือนในอังกฤษ และเป็นแนวหน้าในการจุดประกาย “การตื่นตัวทางวิญญาณ” ครั้งนี้ เล่าถึงค่ำคืนอันน่าทึ่งว่า “มันคือฉากที่ไม่ธรรมดา: การทรงสถิตของพระเจ้าที่เข้มข้นและหนักแน่น หลายสิบคนมอบชีวิตให้พระคริสต์ ได้รับการเยียวยาและเสรีภาพ”
กอร์ดอน บอกว่า ในคืนนั้นมีการสัมผัสการทรงสถิตของพระเจ้าอย่างชัดเจนจนผู้คนกว่า 500 คนยังคงอยู่ต่อหลังจบงาน ในบรรยากาศที่ชวนให้นึกถึงช่วงเวลาเริ่มต้นของการฟื้นฟูที่แอสเบอรี ในรัฐเคนตักกี สหรัฐฯ เมื่อปี 2023
“การทรงสถิตของพระเจ้าเข้มข้นและหนักแน่นจริงๆ หลายสิบคนมอบชีวิตให้พระคริสต์ เกิดการเยียวยาและมีเสรีภาพ เป็นช่วงเวลาที่เปี่ยมด้วยความสำคัญและงดงามอย่างแท้จริง” กอร์ดอนให้สัมภาษณ์กับ Relevant Magazine “ผู้คนร้องเพลงด้วยความหลงใหล ความจริงใจ และความหิวกระหายในพระเจ้า อย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน”
เขายังโพสต์เพิ่มเติมผ่านช่องทางออนไลน์ว่า มีหลายช่วงเวลาที่ทั้งการชุมนุมรู้สึกว่าต้องหมอบลงต่อหน้าพระเจ้า เป็น “ความรู้สึกยำเกรงอันบริสุทธิ์” ที่ยากจะอธิบาย
“หลายชั่วโมงที่วงดนตรีไม่สามารถนำได้ แต่การร้องเพลงยังคงดำเนินต่อไป พลังที่เกิดขึ้นเองหลั่งไหลลงมาบนผู้คน บางครั้งก็มีความเงียบสงัดลึกซึ้ง บางครั้งก็มีเสียงตะโกน คร่ำครวญ และร้องไห้” กอร์ดอนกล่าวต่อ “สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ เรากำลังเห็นช่วงเวลาทางจิตวิญญาณที่ลึกซึ้งและเปี่ยมด้วยฤทธิ์อำนาจ หากคุณเปิดใจ เรียกหาพระเจ้าในขณะที่พระองค์อยู่ใกล้ พระองค์จะมาพบคุณ คุณไม่สามารถจัดฉากสิ่งนี้ได้ สิ่งเดียวที่คุณทำได้คือถ่อมใจลง ร้องทูลขอฝนเทลงมา แล้วพระองค์จะเสด็จมา”
งานนี้นับเป็นตัวอย่างอันทรงพลังของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในหมู่คนหนุ่มสาวทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ Gen Z ที่เริ่มแสวงหาความหมายในชีวิตผ่านความเชื่อมากขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์ฟื้นฟูเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลจาก Intervarsity ซึ่งเป็นขบวนการนักศึกษาคริสเตียนอีแวนเจลิคัลที่มีกลุ่มในหลายมหาวิทยาลัย ระบุว่าการตัดสินใจรับเชื่อในพระคริสต์เพิ่มขึ้นถึง 33 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ Fellowship of Christian Athletes ก็รายงานยอดการรับความรอดสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 พันธกิจนานาชาติอย่าง Cru ก็เพิ่งแตะจำนวนผู้ตัดสินใจมอบชีวิตในความเชื่อเกิน 1 ล้านคนทั่วโลก
อ.เดฟ เฟอร์กูสัน ศิษยาภิบาลผู้นำของ Community Church เชื่อว่าการเคลื่อนไหวของพระเจ้าครั้งนี้กำลังข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก เขาอธิบายผ่านโพสต์ใน Instagram ว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้ที่ระบุว่าตนเป็นคริสเตียนและมีการเข้าโบสถ์ในอังกฤษ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มอายุ 18–24 ปี จาก 4% เป็น 16% และในกลุ่มอายุ 25–34 ปี จาก 4% เป็น 13% ซึ่งแสดงให้เห็นถึง “การฟื้นฟูที่เงียบงัน” ที่กำลังเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร
“มีหลักฐานเบื้องต้นว่าการฟื้นฟูนี้กำลังเคลื่อนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมาจากสหรัฐอเมริกาด้วย” เฟอร์กูสันกล่าว “ผมเชื่อเป็นการส่วนตัวว่าสิ่งนี้กำลังจะมาถึงเราในไม่ช้า”
กอร์ดอนกล่าวทิ้งท้ายว่า “สุดท้ายแล้ว สัญญาณที่แท้จริงของการทำงานของพระเจ้าไม่ใช่ตัวเลข หรือแม้แต่ประสบการณ์ หากแต่คือชีวิตที่ถูกเปลี่ยนแปลง สร้างใหม่ และถูกส่งออกไป”
ทั้งนี้ งานอธิษฐานและนมัสการจะจัดขึ้นร่วมกันที่คริสตจักรในเครือทุกๆ สองเดือน โดยครั้งต่อไปมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้