เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

ประชุม WCRC 27th เปิดฉากที่เชียงใหม่ สู่การ "เพียรพยายามในการเป็นพยาน" ท่ามกลางวิกฤตโลก

ประชุม WCRC 27th เปิดฉากที่เชียงใหม่ คริสตจักรปฏิรูปสากลประกาศความเป็นหนึ่งในพระคริสต์ สู่การ "เพียรพยายามในการเป็นพยาน" ท่ามกลางวิกฤตโลก


การประชุมสมัชชาสภาคริสตจักรสากลปฏิรูปสมัยสามัญ ครั้งที่ 27 ของ World Communion of Reformed Churches (WCRC) ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่ ศูนย์ประชุมโรงแรมดิเอมเพรส จังหวัดเชียงใหม่ โดยการรวมตัวกันครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้พระนามของพระเจ้าตรีเอกานุภาพ ในฐานะที่ผู้เข้าร่วมเป็น "ครอบครัวเดียวกัน" 


การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อหลักคือ "พากเพียรในการเป็นพยานของท่าน" (Persevere in your witness) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพระธรรมฮีบรู โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นพยานถึงความรักและความเมตตาของพระเจ้าต่อสรรพสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง


ประกาศจัดตั้งและยืนยันองค์ประชุม


การประชุมสมัชชาสภาคริสตจักรสากลปฏิรูปสมัยสามัญครั้งนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 150 ปีแห่งการเป็นพยานของคริสตจักรปฏิรูป และถูกเรียกว่าเป็นการรวมตัวที่เปี่ยมด้วยพระพร


หลังจากพิธีนมัสการเปิดการประชุม (Opening Devotion) ที่มีการร้องเพลงสรรเสริญทั้งภาษาอังกฤษ สเปน อินโดนีเซีย และภาษาถิ่นอื่น ๆ ที่ประชุมได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญเพื่อยืนยันองค์ประชุม (quorum)


ศจ. เซตรี นาโยมี เลขาธิการทั่วไป ได้ร้องขอให้ผู้แทนจากภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ แอฟริกา, อเมริกาลาตินา, เอเชีย (ภูมิภาคเจ้าภาพ), แคริบเบียน, ยุโรป, ตะวันออกกลาง, อเมริกาเหนือ และแปซิฟิก ยืนขึ้น โดยมีการยืนยันว่ามีผู้แทนลงทะเบียนจากจำนวนคริสตจักรสมาชิกที่ลงทะเบียน 115 แห่ง ซึ่งเกินกว่า 60% ของคริสตจักรสมาชิกที่ดำเนินพันธกิจปัจจุบัน 171 แห่ง ด้วยเหตุนี้ ศจ. นัจลา อาบู ชาวัน คัสซาบ ประธานสภาคริสตจักรสากลปฏิรูป (WCRC) จึงประกาศให้การประชุมสมัชชาสภาคริสตจักรสากลปฏิรูปสมัยสามัญ ครั้งที่ 27 ของ WCRC ได้รับการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ (constituted) และสามารถดำเนินการต่อไปได้


เสียงต้อนรับจากเจ้าภาพและพันธมิตรระดับโลก


พิธีเปิดได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติและผู้นำระดับจังหวัดและระดับชาติของไทย ได้แก่ นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, นายศักดิ์เพชร ยานะแก้ว ผู้อำนวยการกลุ่มศาสนสัมพันธ์ต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม, ศจ.ดร. บุญรัตน์ บัวเย็น ประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย (CCT) ซึ่งทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพท้องถิ่น, และรองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงเครือข่ายสัมพันธ์ระหว่างศาสนาในเชียงใหม่ ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู และซิกข์


นายศักดิ์เพชร ยานะแก้ว ได้กล่าวแสดงความยินดี โดยระบุว่าโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์หลายด้าน เช่น ความขัดแย้งทางสังคมเศรษฐกิจและการเมือง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ความไม่เท่าเทียม และการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงจำเป็นต้องมี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน (solidarity) มากกว่าที่เคย พร้อมทั้งชื่นชมหัวข้อการประชุมที่เน้นย้ำให้คริสเตียนมั่นคงในคำสอนของพระเยซูคริสต์ ในการทำความยุติธรรม รักความจริง และเดินอย่างถ่อมตัวกับพระเจ้า


ด้าน ศจ.ดร. บุญรัตน์ บัวเย็น ประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย กล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยเน้นย้ำว่าการประชุมนี้เป็นมากกว่าการอภิปรายเชิงวิชาการ แต่ยังเป็นพยานอย่างกล้าหาญต่อพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์


นอกจากนี้ ยังมีผู้นำองค์กรคริสตจักรพันธมิตรระดับโลกเข้าร่วมกล่าวคำทักทาย ได้แก่ ศจ. ดร. เจอร์รี พิลเลย์ เลขาธิการทั่วไปสภาคริสตจักรสากล (WCC), ศจ. ดร. กึม จูซบ เลขาธิการทั่วไปสภาพันธกิจโลก (CWM), และศจ.ดร. ประดิษฐ์ เถกิงรังสฤษดิ์ ประธานกรรมมูลนิธิสภาคริสตจักรแห่งเอเชีย (CCA) โดย ศจ. ดร. เจอร์รี พิลเลย์ เน้นย้ำว่าความเป็นเอกภาพของคริสเตียนและการทำงานร่วมกันระดับโลกนั้นจำเป็นมากกว่าที่เคย ในขณะที่ ศจ. ดร. กึม จูซบ กล่าวว่า การเพียรพยายามในการเป็นพยานนั้นไม่ใช่การอดทนแบบเฉื่อยชา แต่เป็น การกระทำแห่งความเชื่ออย่างสุดขั้ว (radical act of faith) และเป็นการต่อต้านที่หยั่งรากในความหวัง


หลังจากพิธีเปิดและการถ่ายภาพหมู่ การประชุมได้เข้าสู่ช่วงการทำงาน (business session) โดยมีการแจ้งให้ทราบถึงวาระสำคัญ เช่น การรับรองวาระการประชุมและระเบียบขั้นตอนการปฏิบัติงาน (Rules of Procedure) ซึ่งระบุไว้ในคู่มือหน้า 71

ที่ประชุมเน้นย้ำว่าการทำงานจะใช้ รูปแบบฉันทามติ (consensus model) ซึ่งมีหลักการสำคัญคือ การ ฟัง (listening), การวินิจฉัย (discerning) และ การตัดสินใจ (deciding) โดยต้องพึ่งพาการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้แทนจะใช้บัตรสีส้มเพื่อแสดงความเห็นด้วย และบัตรสีน้ำเงินเพื่อแสดงคำถามหรือข้อกังวล เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เข้าร่วมทุกคนจะสามารถมีส่วนร่วมและสร้างผลลัพธ์ที่ดีได้


ทั้งนี้ WCRC ยังให้ความสำคัญกับการสร้าง ชุมชนที่ปลอดภัย (safe community) และมีการจัดกลุ่มแลกเปลี่ยน (Caucuses) สำหรับผู้หญิงและเยาวชนในช่วงแรกของการประชุม เพื่อให้เสียงของผู้ที่ถูกมองข้ามมานานหลายศตวรรษได้มีผู้รับฟัง




________________________________________


ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook