เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

บทเรียนจากประวัติศาสตร์: คริสตจักรโปรแตสแตนท์ไทยกับเส้นทางแห่งการเติบโตและบททดสอบ

ประวัติศาสตร์คริสตจักรไทยกับบทเรียนจากอดีต สู่อนาคตของการประกาศข่าวประเสริฐ


เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2025 รายการ Share The Love Forward ได้จัดเสวนาในหัวข้อ ประวัติศาสตร์คริสตจักรไทย: บทเรียนของการเจริญเติบโตและความผิดพลาด ภายใต้ซีรีส์ ชีวิตติดพระคัมภีร์ เพื่อให้ผู้ชมเข้าใจถึงรากฐานของคริสตจักรโปรแตสแตนท์ในประเทศไทยและสามารถนำบทเรียนจากอดีตมาปรับใช้ในการก้าวไปข้างหน้า

วงเสวนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้รับใช้พระเจ้าที่มีประสบการณ์และความเข้าใจลึกซึ้งด้านประวัติศาสตร์คริสตจักร ได้แก่ ศจ.พงษ์ศักดิ์ สินธุมัด รองประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย, ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ประธานมูลนิธิคริสตจักรคณะแบ๊บติสต์, อ.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี ผู้รับใช้อาวุโส และ ดร.กนก ลีฬหเกรียงไกร ศิษยาภิบาลคริสตจักรกิจการของพระคริสต์ ธนบุรี โดยมี อ.นิยม ชาญศิริเมธา ศิษยาภิบาลคริสตจักรสานสัมพันธ์ เป็นผู้ดำเนินรายการ


อดีตคือบทเรียน อนาคตคือโอกาสในการสร้างประวัติศาสตร์

ศจ.พงษ์ศักดิ์ เริ่มต้นด้วยการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาประวัติศาสตร์ โดยกล่าวว่า “เราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้ แต่เราสามารถเรียนรู้จากมันเพื่อสร้างอนาคต” พร้อมอ้างอิงพระธรรมเฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 6 ที่โมเสสสั่งสอนชนชาติอิสราเอลให้จดจำเรื่องราวในอดีตและถ่ายทอดแก่ลูกหลาน

ประวัติศาสตร์เป็นรากฐานของปัจจุบัน เราอยู่ ณ จุดนี้ได้เพราะมีคนรุ่นก่อนหน้าสร้างเส้นทางเอาไว้” ศจ.พงษ์ศักดิ์กล่าวเสริม พร้อมชี้ให้เห็นว่าการเติบโตของคริสตจักรไทยไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของการทำงานหนักของบรรพบุรุษในความเชื่อ


มิชชันนารีกับรากฐานของคริสตจักรไทย

ดร.กนก ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของคริสตจักรโปรแตสแตนท์ในประเทศไทย โดยเล่าถึงมิชชันนารีสองท่านแรกที่เดินทางมายังสยาม ได้แก่ ศาสนาจารย์คาร์ล กุตซ์ลาฟฟ์ และ ศาสนาจารย์เจคอบ ทอมลิน แม้เป้าหมายเดิมของพวกเขาคือการเดินทางไปยังประเทศจีน แต่เมื่อเห็นผู้คนในสยาม พวกเขากลับเกิดภาระใจและเริ่มต้นพันธกิจการประกาศที่นี่

ดร.กนก กล่าวว่า แม้ว่าการประกาศในยุคแรกจะเต็มไปด้วยความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคทางด้านภาษา วัฒนธรรม หรือสภาพแวดล้อม แต่เหล่ามิชชันนารียังคงสัตย์ซื่อต่อการทรงเรียก ซึ่งเป็นตัวอย่างที่คริสเตียนในปัจจุบันควรเรียนรู้

อย่ามองเพียงตัวเลขของผู้เชื่อ แต่ให้เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกย่างก้าวของพันธกิจ” ดร.กนกกล่าว พร้อมกระตุ้นให้ผู้ชมตระหนักถึงคุณค่าของประวัติศาสตร์และใช้มันเป็นแรงบันดาลใจในการรับใช้พระเจ้า


อุปสรรคและความเข้าใจผิดในสังคมไทย

อ.ประยูร ได้แบ่งปันถึงช่วงเวลาที่คริสเตียนในประเทศไทยเผชิญกับการต่อต้านอย่างหนัก โดยเฉพาะช่วงที่ความเชื่อคริสเตียนถูกเข้าใจผิดและโยงเข้ากับลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุคสงครามเย็น

คนไทยจำนวนมากในอดีตเข้าใจผิดว่าผู้ที่เปลี่ยนมานับถือพระเยซูคริสต์คือผู้ที่ถูกล้างสมองและอาจเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ ทำให้เกิดความหวาดระแวงและการต่อต้านอย่างรุนแรง” อ.ประยูรเล่าถึงสถานการณ์ในช่วงนั้น พร้อมอธิบายว่าคริสเตียนไทยจำนวนไม่น้อยต้องรับเชื่ออย่างลับๆ เพราะกลัวการถูกกดดันจากครอบครัวและสังคม

อย่างไรก็ตาม อ.ประยูรชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าทรงใช้การศึกษาและการแพทย์เป็นสะพานเชื่อมสู่การประกาศ ทำให้โรงเรียนและโรงพยาบาลกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเผยแพร่ข่าวประเสริฐให้กับคนไทย


ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงและความร่วมมือของคริสตจักรไทย

ศจ.ธงชัย กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1968-1970 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คริสตจักรไทยเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการประกาศทั่วประเทศ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากงานของ บิลลี เกรแฮม นักประกาศพระกิตติคุณชื่อดัง

การประชุม Congress เพื่อการประกาศพระกิตติคุณทั่วประเทศครั้งที่ 1 ถูกจัดขึ้น นำไปสู่การสร้าง “กรรมการเพิ่มพูนคริสตจักรในประเทศไทย” และตามมาด้วยขบวนการ ยุวคริสเตียนแห่งประเทศไทย ในปี 1971 ที่หนุ่มสาวคริสเตียนรวมตัวกันเพื่อเดินสายประกาศทั่วประเทศ

ในปี 1988 การประชุม Congress ครั้งที่ 3 ที่คริสตจักรวัฒนา ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยนำไปสู่การจัดตั้ง กรรมการประสานงานคริสตจักรโปรเตสแตนต์แห่งประเทศไทย (กปท.) ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ระหว่าง 3 องค์กรหลัก ได้แก่ สภาคริสตจักรในประเทศไทย, สหคริสตจักรแบ๊บติสต์ในประเทศไทย และ สหกิจคริสเตียนแห่งประเทศไทย

ศจ.ธงชัยยังกล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 2004 เมื่อมูลนิธิ อาร์เธอร์ เอส เดอมอส ได้สนับสนุนการประกาศผ่านหนังสือ พลังแห่งชีวิต ซึ่งมีผู้คนจำนวนมากหันมาสนใจพระเจ้า

เราอาจไม่เห็นผลลัพธ์ในทันที แต่การเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณกำลังเกิดขึ้น” ศจ.ธงชัยกล่าว พร้อมเน้นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างผู้นำรุ่นใหม่ผ่านโครงการ Global Proclamation Academy (GPA) ซึ่งได้จัดขึ้นแล้วถึง 8 ครั้ง


ประวัติศาสตร์กำลังถูกเขียนขึ้น: บทบาทของคริสเตียนในปัจจุบัน

ศจ.ธงชัยทิ้งท้ายว่า เหตุการณ์สำคัญในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เช่น การระบาดของโควิด-19 และการเสียชีวิตของคุณแตงโม ภัทรธิดา ได้ส่งผลให้ผู้คนเปิดใจรับฟังเรื่องของพระเจ้ามากขึ้น

สิ่งที่เราทำในวันนี้จะกลายเป็นประวัติศาสตร์ในอนาคต” ศจ.ธงชัยกล่าว พร้อมหนุนใจให้คริสเตียนไทยทุกคนตระหนักถึงบทบาทของตนในการสืบสานพระมหาบัญชา และก้าวไปข้างหน้าด้วยความเชื่อมั่นในแผนการของพระเจ้า

แม้การเดินทางของคริสตจักรโปรแตสแตนท์ไทยเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ทุกบทเรียนในอดีตได้กลายเป็นรากฐานให้พันธกิจปัจจุบันมั่นคงขึ้น ผู้ร่วมเสวนาต่างเห็นพ้องกันว่า การสืบทอดความเชื่อและบทเรียนจากอดีต จะเป็นแนวทางสำคัญในการขยายแผ่นดินของพระเจ้าให้กว้างไกลต่อไป

มีเนื้อหาในรายการที่ผู้สนใจสามารถรับชมรายการ Share The Love Forward หัวข้อ "ประวัติศาสตร์คริสตจักรไทย กับบทเรียนของการเจริญเติบโต และความผิดพลาด" ย้อนหลังได้ทางแฟนเพจและช่องยูทูบ


________________________________________


ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook