เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

สำรวจความหมาย 'การรับไฟ' อ.สตีฟ แนะเข้าใจพระวิญญาณถูกต้อง

ไขข้อข้องใจ “การรับไฟ” ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ หนุนใจให้คริสเตียนใช้วิจารณญาณ และดำเนินชีวิตที่ใกล้ชิดพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง


ศาสนาจารย์ ดร. สตีฟ เทเลอร์ อาจารย์ประจำพระคริสตธรรมกรุงเทพ และสมาชิกกลุ่มนักคิดคริสเตียนไทย (Thai Christian Thinkers) แบ่งปันมุมมองและข้อสรุปของกลุ่มเกี่ยวกับประเด็น “การรับไฟ” ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผ่านทางแฟนเพจของกลุ่ม เพื่อคลายความสับสนที่เกิดขึ้นในหมู่คริสเตียนไทย


อ.สตีฟ เริ่มต้นด้วยการกล่าวถึงความจำเป็นในการเข้าใจเรื่องนี้อย่างมีเหตุผล โดยตั้งข้อสังเกตว่ามีการเน้นประสบการณ์บางอย่างมากเกินไป เช่น การล้มลง แสดงอารมณ์ หรือการขับผี กลุ่มนักคิดฯ จึงมีจุดยืนชัดเจนว่า “เราไม่ปฏิเสธหมด แต่เราไม่รับหมด” สิ่งสำคัญคือการวินิจฉัยว่าสิ่งใดมาจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตฝ่ายวิญญาณ


ในประเด็นว่า “การรับไฟ” คืออะไร และมีที่มาจากพระคัมภีร์หรือไม่ อ.สตีฟ อธิบายว่า แม้คำนี้จะไม่ปรากฏโดยตรงในพระคัมภีร์ แต่แนวคิดมีอยู่ เช่น คำพูดของยอห์นผู้ให้บัพติศมาที่กล่าวว่าพระเยซูจะทรงให้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และด้วยไฟ รวมถึงเหตุการณ์ในวันเพ็นเทคอสต์ที่มีลิ้นไฟปรากฏเหนือสาวก ซึ่งนำไปสู่การพูดภาษาแปลกๆ ที่ผู้คนจากหลายชนชาติเข้าใจได้ ทั้งยังมีตัวอย่างอื่นในพระคัมภีร์ เช่น แสงจากสวรรค์ที่เปาโลประสบ หรือเหตุการณ์ขับผีในพระนามพระเยซู และในประวัติศาสตร์คริสตจักรก็เคยเกิดการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างพิเศษ ซึ่งอ.สตีฟระบุว่า “สิ่งเหล่านี้บางครั้งก็มาจากพระเจ้า”


ในแง่ของการวินิจฉัย อ.สตีฟ เน้นให้พิจารณาที่ “ผลที่ตามมา” มากกว่าประสบการณ์ภายนอก โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงนำไปสู่ชีวิตที่บริสุทธิ์มากขึ้น การกลับใจ และความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพระเจ้า อีกทั้งจะเสริมกำลังผู้เชื่อในการเป็นพยานและประกาศข่าวประเสริฐ เหมือนที่เกิดขึ้นในวันเพ็นเทคอสต์


อ.สตีฟยังได้เสนอข้อควรระวัง 3 ประการที่คริสเตียนควรใคร่ครวญอย่างรอบคอบ ได้แก่:


1. อย่าเน้นสิ่งใดเกินกว่าพระคัมภีร์เน้น: พระคัมภีร์กล่าวถึงประสบการณ์พิเศษเหล่านี้บ้าง แต่ไม่ได้ระบุว่าจะต้องเกิดขึ้นเสมอ จึงควรระมัดระวังหากมีความคาดหวังให้เกิดสิ่งเหล่านี้ในทุกการประชุม


2. อย่าแสวงหาสิ่งภายนอกเพิ่มเติม: ผู้เชื่อได้รับพระพรครบถ้วนแล้วในพระเยซูคริสต์ (เอเฟซัส 1:3) การแสวงหาการประชุมพิเศษหรือการวางมือจากผู้นำฝ่ายวิญญาณบางคน จึงไม่จำเป็น สิ่งสำคัญคือการดำเนินชีวิตที่ยอมจำนนและให้พระวิญญาณนำทุกวัน


3. ระวังการจัดการของมนุษย์ (Human Manipulation): เทคนิคจิตวิทยา แสง สี เสียง หรือแม้แต่การกระทำรุนแรงจากผู้นำ อาจทำให้เกิดประสบการณ์ที่เร้าอารมณ์แต่ไม่ได้มาจากพระเจ้า เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำงานจริง จะไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนตัว และหากเกิดอาการผิดปกติบางอย่าง อาจเป็นเรื่องของสุขภาพจิตซึ่งควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์


ศาสนาจารย์ ดร. สตีฟ เทเลอร์ พูดถึงการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร ในคลิปแฟนเพจกลุ่มนักคิดคริสเตียนไทย Thai Christian Thinkers

ในภาพรวม อ.สตีฟ สรุปว่า พระเจ้าทรงปรารถนาให้คริสเตียนเปี่ยมล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เสมอ โดยการยอมจำนนต่อพระองค์อย่างต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ทุกคนที่อยู่ในพระเยซูคริสต์มีพระพรพร้อมแล้ว การศึกษาเอเฟซัส บทที่ 1–3 จะช่วยให้เข้าใจในสิ่งเหล่านี้ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


อ.สตีฟ ยังหนุนใจให้คริสเตียนเปิดใจต่อประสบการณ์พิเศษที่พระเจ้าประทานในบางโอกาส แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำชีวิตในทุกวัน


รับฟังคลิปฉบับเต็มได้ที่แฟนเพจ กลุ่มนักคิดคริสเตียนไทย Thai Christian Thinkers




________________________________________

ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook