เว็บไซต์มีการใช้งานคุกกี้ (Cookies) เพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและการตั้งค่าคุกกี้ได้ที่ นโยบายการใช้คุกกี้

คริสตจักรกับภารกิจโอบอุ้มผู้ป่วยจิตเวช มีส่วนร่วมสร้างการเยียวยา

"เปิดบ้านเพื่อสุขภาวะ": สมาคมเสริมสร้างชีวิต ร่วมกับ สปสช. ฟื้นฟูผู้ป่วยจิตเวช คริสตจักรมีส่วนร่วมสร้างการเยียวยา


สมาคมเสริมสร้างชีวิต (ลิฟวิ่ง) จัดงาน “Open House: Recovery เปิดบ้านเพื่อสุขภาวะ” เพื่อขอบคุณผู้สนับสนุน และเปิดเวทีให้ผู้ป่วยจิตเวชที่ผ่านการฟื้นฟูได้เล่าประสบการณ์ตรง พร้อมแสดงผลงานสร้างสรรค์ โดยมี รศ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เข้าร่วมแสดงความยินดีในฐานะหน่วยงานผู้สนับสนุนงบประมาณ งานนี้นำโดย คุณสุนทร อิ่มวัฒนา นายกสมาคมเสริมสร้างชีวิต และคุณเครือวัลย์ เที่ยงธรรม ที่ปรึกษาสมาคมฯ


บทบาทของลิฟวิ่งในการฟื้นฟูสุขภาวะจิต


คุณสุนทร อิ่มวัฒนา อธิบายว่า ภารกิจหลักของลิฟวิ่งคือการฟื้นฟูสุขภาวะทางจิตสำหรับผู้พิการประเภท 4 ผู้ป่วยจิตเวชระยะฟื้นฟู และผู้ที่มีความเสี่ยง โดยจัดกระบวนการประเมินสุขภาวะและวางแผนรายบุคคล เพื่อให้ผู้รับบริการเรียนรู้ เข้าใจอาการของตนเอง และสามารถดูแลตนเองได้ ปัจจุบันมีผู้เข้ารับการบำบัดแล้วกว่า 100 คน ซึ่งหลายคนกลับมามีความมั่นใจ มีเพื่อน และใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ สมาคมยังมีเครือข่าย Support Group ที่ผ่านการอบรมแล้วคอยช่วยเหลือและให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง


การสนับสนุนจาก สปสช.


รศ.ดร.ยุพดี ศิริสินสุข เปิดเผยว่า สปสช. มีระบบสนับสนุนงบประมาณให้กับองค์กรภาคประชาชนที่สามารถจัดบริการฟื้นฟูสุขภาวะทางจิตได้ตามมาตรฐาน โดยองค์กรต้องขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการเฉพาะด้านฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้ป่วยจิตเวชระยะฟื้นฟู คนพิการทางจิตใจและพฤติกรรม รวมถึงผู้มีความเสี่ยงต่อโรคทางจิตเวช ทั้งนี้ สปสช. เตรียมขยายเครือข่ายฟื้นฟูไปยังโรคเรื้อรังอื่นๆ และเน้นการสร้างบุคลากรผ่านการอบรมจากโรงพยาบาลศรีธัญญา


วิกฤตสุขภาพจิตในประเทศไทย


คุณเครือวัลย์ เที่ยงธรรม ชี้ให้เห็นสถานการณ์ที่น่ากังวลว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้มีปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชสูงถึงราว 13.4 ล้านคน หรือประมาณ 2 ใน 10 ของประชากร ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากปี 2564 ที่มีเพียง 2.4 ล้านคน ปัจจัยหลักมาจากเศรษฐกิจ ความเครียด การเปิดเสรีกัญชา และการใช้สารเสพติด ทำให้ปัญหาซับซ้อนขึ้น ขณะเดียวกัน ประเทศไทยยังมีจำนวนจิตแพทย์น้อย (เฉลี่ย 1.7 คนต่อประชากรแสนคน) และงบประมาณด้านสุขภาพจิตต่ำกว่า 5% ของงบสาธารณสุขทั้งหมด จึงยิ่งเป็นความท้าทายใหญ่


บทบาทของคริสตจักร


ในภาวะที่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คริสตจักรจึงมีบทบาทสำคัญในการโอบอุ้มผู้มีปัญหาสุขภาพจิต เนื่องจากหลายคนมักพึ่งพาศิษยาภิบาลหรือเพื่อนฝ่ายจิตวิญญาณก่อนเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ คุณเครือวัลย์แบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวที่เธอได้รับการรักษาด้วยทั้งการใช้ยา การอธิษฐาน และการดูแลจากพี่น้องคริสเตียน จนหายจากอาการหูแว่วและกลับมามีชีวิตปกติ เธอย้ำว่า โรคจิตเวชเป็นการเจ็บป่วยทางกายภาพ จึงไม่ควรหยุดยาเอง แต่ต้องรักษาควบคู่กับการอธิษฐานและการหนุนใจจากพระคัมภีร์ เพลงคริสเตียน และการดูแลจากคริสตจักร


มุมมองจากศิษยาภิบาล


อาจารย์สุภาภรณ์ ส่งเสริมพงษ์ ศิษยาภิบาลคริสตจักรไมตรีจิต เล่าประสบการณ์ที่เริ่มต้นจากการเข้าร่วมงานของลิฟวิ่งเมื่อสิบปีก่อน จนตระหนักว่าโรคจิตเวชคือการเจ็บป่วยที่ต้องได้รับการดูแลด้วยความรักของพระเจ้า ปัจจุบันคริสตจักรของเธอเปิดพื้นที่มากขึ้น ทั้งการอธิษฐานเผื่อ จัดกิจกรรม และสร้างเครือข่ายดูแลพี่น้องที่เจ็บป่วยทางจิตเวช เธอหนุนใจคริสตจักรอื่นๆ ว่าการดูแลกลุ่มนี้เป็นงานระยะยาวที่ต้องอาศัยความร่วมมือของสมาชิก ไม่ใช่เพียงศิษยาภิบาลคนเดียว


การจัดงานครั้งนี้จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของสมาคมเสริมสร้างชีวิตในการฟื้นฟูสุขภาวะจิต และเป็นแรงบันดาลใจให้ภาคส่วนต่างๆ รวมถึงคริสตจักร ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตในสังคมไทยอย่างจริงจังและยั่งยืน




________________________________________


ติดตาม CGN Thai News ข่าวสารสำหรับคริสเตียนไทย ได้ทาง Facebook