ศิลปินเพลงฟิลิปปินส์ผสานพันธกิจกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เน้นความเชื่อและการฟื้นฟูชุมชน

คูห์ เลเดสมา (Kuh Ledesma) นักร้อง นักแสดงหญิงชาวฟิลิปปินส์ ผู้เป็นตำนานแห่ง Original Pilipino Music (OPM) เดินทางลงพื้นที่หลายชุมชนในเซบูที่ได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่นติโน (Typhoon Tino) หรือ Kalmaegi พร้อมทั้งมีกระแสเตือนพายุไต้ฝุ่นอูวัน (Typhoon Uwan) ที่อาจตามมา เธอลงพื้นที่เพื่อแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์และส่งต่อกำลังใจทางจิตวิญญาณแก่ผู้คนที่ยังคงฟื้นตัวจากน้ำท่วม ความเสียหายของทรัพย์สิน และการพลัดถิ่นหลังพายุ

เลเดสมา ซึ่งมีชื่อเสียงระดับนานาชาติจากผลงานทางดนตรียาวนานหลายทศวรรษ ได้ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งอิลายา (Ilaya) และตัยตัย (Taytay) ในดาเนา (Danao), อูมาปาด (Umapad) และคอตคอต (Cotcot) ในลิโลอัน (Liloan) รวมถึงโรงเรียนต่างๆ เช่น โรงเรียนมัธยมแห่งชาติมากูอิคาต (Maguikat National High School), ดอนบอสโก (Don Bosco) และโรงเรียน Jubay Integrated School โดยแต่ละจุดมีการประสานงานกับศิษยาภิบาลคริสตจักรท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือเข้าถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด

เลเดสมากล่าวว่า "นี่คืองานพันธกิจของฉัน ฉันไปสถานที่ต่างๆ เพื่อแบ่งปันพระวจนะของพระเจ้า และที่สำคัญกว่านั้นคือแบ่งปันความรอด (Kaligtasan)" เธอยังเล่าว่าเธอมีส่วนร่วมในพันธกิจในเรือนจำมานาน สะท้อนถึงหัวใจที่มุ่งช่วยเหลือผู้คนชายขอบและเปราะบาง

การลงพื้นที่แต่ละครั้งประกอบด้วยการหนุนใจสั้นๆ ควบคู่กับการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ เลเดสมาแบ่งปันพระคำ เช่น "เพราะว่าทุกคนทำบาปและเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า" และ "เพราะว่าพวกท่านได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ… ไม่ใช่มาจากการกระทำ" เพื่อเน้นความหวัง ความเชื่อ และการเยียวยาสำหรับผู้ที่สูญเสียบ้านหรือรายได้ เธอเล่าว่าหลายคนตั้งใจฟัง บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาขณะได้รับการหนุนใจทั้งด้านจิตวิญญาณและสิ่งของที่จำเป็น

เลเดสมาเล่าย้อนถึงการทรงเรียกในช่วงแรกของการเป็นคริสเตียน เมื่อมีคนถามถึงงานพันธกิจของเธอ ตอนนั้นเธอยังไม่แน่ใจ แต่ต่อมาก็เข้าใจชัดเจนว่า พันธกิจของเธอคือ "การแบ่งปันความรักของพระคริสต์ ของประทานแห่งความรอด" ซึ่งกลายเป็นหลักการสำคัญที่หล่อหลอมการทำงานด้านมนุษยธรรมควบคู่ไปกับเส้นทางดนตรีของเธอ

แม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะศิลปิน แต่เลเดสมาใช้เวทีสาธารณะของเธอเพื่อผสมผสานดนตรี พันธกิจ และการเข้าถึงชุมชนมากขึ้นเรื่อยๆ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยไต้ฝุ่นจึงเป็นส่วนหนึ่งของความตั้งใจที่ขยายออกมากขึ้น ในการยืนเคียงข้างชุมชนที่กำลังเผชิญวิกฤตและส่งต่อความหวังแก่ผู้ที่รู้สึกเปราะบาง เธอกล่าวว่า อาจเดินทางกลับมาเซบูอีกในราวสองสัปดาห์ และอาจขยายการลงพื้นที่ไปยังเมืองใกล้เคียง เช่น บาโคลอด (Bacolod) พร้อมกระตุ้นให้ผู้คนยึดมั่นในความเชื่อและช่วยเหลือกัน เพราะความเข้มแข็งทางจิตวิญญาณเมื่อรวมกับความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะช่วยให้ทุกคนลุกขึ้นฟื้นฟูได้หลังภัยพิบัติ

สำหรับชาวเซบูจำนวนมาก การมาเยือนของเลเดสมา เป็นมากกว่าการรับสิ่งของบรรเทาทุกข์ แต่มันคือการได้รับความหวัง ความอบอุ่นใจ และการยืนยันว่าความเมตตา ความเชื่อ และชุมชนสามารถช่วยให้พวกเขาผ่านความทุกข์ยากไปได้ บทบาทของเธอจึงสะท้อนให้เห็นว่า ศิลปินและบุคคลสาธารณะสามารถเป็นแหล่งของกำลังใจ ทั้งด้านมนุษยธรรมและจิตวิญญาณในช่วงเวลาวิกฤตได้อย่างแท้จริง

ที่มา: Christian Daily International